สถานการณ์โรคแอนแทรกซ์ในจังหวัดมุกดาหาร: การระบาดและมาตรการควบคุมฉุกเฉิน

ข่าวด่วนวันนี้ (ข่าวทั่วไทย)

จังหวัดมุกดาหารกำลังเผชิญกับสถานการณ์การระบาดของโรคแอนแทรกซ์ที่น่าวิตก หลังพบผู้ป่วยเข้าข่ายติดเชื้อเพิ่มอีก 3 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ส่งผลให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งดำเนินมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ได้รับเชื้อเพิ่มขึ้น

สถานการณ์ล่าสุด

นายแพทย์ณรงค์ จันทร์แก้ว สาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร ได้เปิดเผยข้อมูลเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ว่า ขณะนี้ได้พบผู้ป่วยเข้าข่ายติดเชื้อแอนแทรกซ์เพิ่มอีก 3 ราย โดยทั้งหมดได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ 1 ราย ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนถึงความรุนแรงของการระบาดในครั้งนี้

จากการสอบสวนโรคพบผู้ที่มีความเสี่ยงจากการสัมผัสเชื้อรวมทั้งสิ้น 377 ราย แบ่งเป็นกลุ่มต่างๆ ดังนี้:

  • ผู้ชำแหละเนื้อวัว 28 ราย
  • ผู้รับประทานเนื้อดิบ 232 ราย
  • ผู้สัมผัสโดยอยู่ร่วมบ้านเดียวกันกับผู้ชำแหละ 117 ราย

ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ดำเนินการตรวจคัดกรองและจ่ายยาป้องกันให้กับผู้สัมผัสทุกรายเรียบร้อยแล้ว เพื่อลดโอกาสการเกิดโรคและการแพร่กระจายของเชื้อในวงกว้าง

มาตรการควบคุมโรคในพื้นที่

อำเภอดอนตาล ซึ่งเป็นพื้นที่พบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ ได้มีการออกประกาศมาตรการควบคุมโรคฉบับที่ 2 โดยนายชาคริต ชุมจันทร์ นายอำเภอดอนตาล เพื่อเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค มาตรการที่สำคัญประกอบด้วย:

  1. การจัดตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายโคและกระบือเข้าออกในเขตพื้นที่อำเภอดอนตาล รวม 4 จุด ได้แก่:
    • จุดตรวจบ้านป่าพะยอม
    • จุดตรวจบ้านนาห้วยกอก
    • จุดตรวจบ้านภูวง
    • จุดตรวจหน้าสถานีตำรวจภูธรป่าไร่
  2. การตรวจสอบและควบคุมพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะที่บ้านโคกสว่าง ตำบลเหล่าหมี อำเภอดอนตาล ซึ่งเป็นจุดชำแหละวัวที่มีการแพร่เชื้อ เจ้าหน้าที่จากด่านกักกันสัตว์ กรมปศุสัตว์ ได้ดำเนินการ:
    • เก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อ
    • ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อบริเวณโดยรอบ เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค
    • วางแผนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคให้กับวัวในรัศมี 5 กิโลเมตร จำนวน 1,222 ตัว
    • ฉีดยาปฏิชีวนะให้กับวัวในบริเวณพื้นที่เสี่ยง จำนวน 124 ตัว

ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคแอนแทรกซ์

โรคแอนแทรกซ์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โรคกาลี” เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Bacillus anthracis ซึ่งสามารถสร้างสปอร์ที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้เป็นเวลานาน เชื้อนี้มักพบในสัตว์กีบ เช่น วัว ควาย แพะ แกะ และสามารถแพร่เชื้อสู่มนุษย์ได้หลายทาง:

  1. การสัมผัสโดยตรง: เกิดจากการสัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อหรือซากสัตว์ โดยเฉพาะระหว่างการชำแหละ
  2. การรับประทาน: การบริโภคเนื้อสัตว์ที่ปนเปื้อนเชื้อและปรุงไม่สุก เช่น ลาบดิบ ก้อยดิบ
  3. การหายใจ: การสูดดมสปอร์ของเชื้อที่ฟุ้งกระจายในอากาศ
  4. แมลงพาหะ: แมลงดูดเลือดที่กัดสัตว์ที่ติดเชื้อแล้วมากัดคน

อาการของโรคแอนแทรกซ์ในมนุษย์ขึ้นอยู่กับช่องทางการติดเชื้อ แต่ที่พบบ่อยคือ แอนแทรกซ์ทางผิวหนัง ซึ่งจะมีตุ่มนูนแดงคล้ายแมลงกัด แล้วกลายเป็นตุ่มน้ำ และเปลี่ยนเป็นแผลเน่าตายสีดำในที่สุด กรณีที่รุนแรงคือ แอนแทรกซ์ในกระแสเลือดและแอนแทรกซ์ทางเดินหายใจ ซึ่งมีอัตราการเสียชีวิตสูงหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

คำแนะนำสำหรับประชาชน

สาธารณสุขจังหวัดมุกดาหารได้ออกคำเตือนและคำแนะนำแก่ประชาชนเพื่อป้องกันการติดเชื้อแอนแทรกซ์ ดังนี้:

  1. งดรับประทานอาหารเนื้อดิบ โดยเด็ดขาด โดยเฉพาะอาหารประเภทลาบเนื้อดิบ ก้อยดิบ และซอยจุ๊ เนื่องจากการปรุงสุกที่อุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 70 องศาเซลเซียส จะช่วยทำลายเชื้อแอนแทรกซ์ได้
  2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ที่ป่วยหรือตายโดยไม่ทราบสาเหตุ และไม่ควรชำแหละหรือเคลื่อนย้ายซากสัตว์ที่ตายผิดปกติ
  3. สวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ หน้ากากอนามัย เมื่อต้องสัมผัสกับเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์
  4. รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำทุกครั้งหลังสัมผัสสัตว์หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์
  5. หากพบสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่ทันที
  6. ผู้ที่มีอาการสงสัย เช่น มีแผลผิดปกติ มีไข้ หนาวสั่น อ่อนเพลีย หายใจลำบาก โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติสัมผัสสัตว์ป่วยหรือตาย หรือรับประทานเนื้อสัตว์ดิบ ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีและแจ้งประวัติการสัมผัสให้แพทย์ทราบ

ความร่วมมือเพื่อควบคุมการระบาด

การควบคุมการระบาดของโรคแอนแทรกซ์ในจังหวัดมุกดาหารจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้การดำเนินมาตรการควบคุมโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันการสูญเสียชีวิตและลดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด และอำเภอดอนตาล ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพร้อมปรับมาตรการตามความเหมาะสมเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคแอนแทรกซ์ให้อยู่ในวงจำกัดและคลี่คลายโดยเร็วที่สุด