ผู้ป่วยโควิด-19 ในเยอรมนี เพิ่มขึ้นมากกว่า 100,000 คนเป็นวันที่สองติดต่อกัน ขณะที่รัฐบาลยังคงลังเลกับการออกมาตรการ “บังคับฉีดวัคซีน”
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ว่า สถาบันโรแบร์ต ค็อก ( อาร์เคไอ ) ซึ่งเป็นศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเยอรมนี รายงานสถิติผู้ป่วยโควิด-19 สะสมในประเทศอย่างน้อย 8,320,386 คน เพิ่มขึ้น 133,536 คน เป็นสถิติรายวันสูงสุดครั้งใหม่ และเป็นวันที่สองติดต่อกัน ซึ่งเยอรมนียืนยันผู้ติดเชื้อต่อวันมากกว่า 100,000 คน
ขณะที่สถิติผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 สะสมอย่างน้อย 116,315 ราย เพิ่มขึ้น 234 ราย ส่วนอัตราอุบัติการณ์ของโรคต่อประชากร อยู่ที่ 100,000 คน ในรอบ 7 วันที่ผ่านมา อยู่ที่ 638.8 เป็นสถิติสูงสุด นับตั้งแต่เยอรมนีเผชิญกับการแพร่ระบาดรอบแรก เมื่อต้นปีที่แล้ว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวเขายังคงมีจุดยืนสนับสนุนแนวทาง “บังคับ” ฉีดวัคซีนโควิด-19 เนื่องจากอัตราปัจจุบันแม้ถือว่าอยู่ในระดับสูง “แต่ยังไม่ได้มากขนาดนั้น” เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศในแถบยุโรปตะวันตกด้วยกัน ปัจจุบัน เยอรมนีมีอัตราการฉีดวัคซีนสองเข็มครอบคลุม 72.7% ของประชากร และ 47% ของประชากรได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว แต่ประชากรวัยผู้ใหญ่อีก 17 ล้านคนยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรก
ด้าน นพ.คาร์ล เลาเทอร์บัค รมว.สาธารณสุข เสนอแนวคิดของการฉีดวัคซีนโควิด-19 “ครบถ้วน” ในเยอรมนี หมายถึงการต้องฉีดวัคซีน “สามเข็ม” เท่านั้น อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงในสังคม โดยทั้งพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคฝ่ายค้านบางพรรค ออกมาคัดค้านมาตรการบังคับฉีดวัคซีน ล่าละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมือง ตามหลักรัฐธรรมนูญ
อ้างอิง
